Axelar Network คืออะไรแล้วจะนำมาใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์ ฉบับย่อยง่าย

เชื่อมต่อการทำงานบนบล็อกเชนแบบไร้ขีดจำกัดด้วย Axelar Network

เมื่อเทคโนโลยีบล็อกเชนสามารถช่วยให้เราทำงานทำเงินได้อย่างไร้ขีดจำกัดแล้ว การเกิดขึ้นของ Axelar ก็เปรียบเสมือนการเสริมความแข็งแกร่งให้กับการทำงานบนบล็อคได้อย่างไร้พรมแดนด้วยเช่นกัน เพราะ Axelar นั้นสร้างขึ้นมาเพื่อลดปัญหาในการทำงานและเชื่อมต่อการทำงานของแพลตฟอร์มต่างๆ บนบล็อกเชน ยิ่งในปัจจุบันความนิยมในการเทรดคริปโตและการใช้งานบนบล็อกเชนนั้นเพิ่มขึ้นทวีคูณ การเข้ามาของ Axelar จึงกลายเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ ที่จะมอบให้กับทั้งผู้ใช้งานและเหล่านักพัฒนาระบบ

เพราะจะช่วยให้การสื่อสารข้ามแพลตฟอร์มบนบล็อกเชนกลายเป็นเรื่องที่ราบรื่นและง่ายดายมากขึ้น เชื่อว่าสำหรับคนที่สนใจในเรื่องของเทคโนโลยีบล็อกเชนหรือแม้แต่นักเทรดคริปโต และ NFT นั้นหลายคนอาจจะผ่านหูผ่านตากับโปรเจกต์ที่ชื่อว่า ‘Axelar’ กันมาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งบางคนอาจจะรู้สึกว่าโปรเจกต์ชื่อแสนล้ำอย่าง Axelar นั้นมีคอนเซปต์ที่ดูซับซ้อนเกินกว่าที่คนธรรมดาทั่วไปจะเอื้อมถึง แต่แท้จริงแล้ว แม้คุณไม่ได้เก่งไอทีหรือเชี่ยวชาญด้านเทคนิคก็สามารถทำความเข้าใจการทำงานของ Axelar รวมถึงประโยชน์ในด้านต่างๆ ที่ผู้ใช้งานจะได้รับได้แบบไม่ยากอย่างที่คิด  

Axelar คืออะไรแล้วจะนำมาใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์ (ฉบับย่อยง่าย)

Axelar นั้นก่อตั้งเมื่อปี 2020 ซึ่งล่าสุดสามารถระดมทุนได้มากถึง 25 ล้านเหรียญสหรัฐในเดือนมิถุนายน ปี 2021 ปัจจุบัน Axelar ได้ขับเคลื่อนโดยทีมงานคุณภาพ โดยมี Co-founder หลัก 2 คนอย่าง โดย Sergey Gorbunov และ Georgios Vlachos ซึ่งทาง Sergey Gorbunov นั้นมีโปรไฟล์ที่ไม่ธรรมดา เพราะเขาเป็นถึงผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่ University of Waterloo ประเทศแคนาดา แถมยังพ่วงด้วยดีกรีในระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยไอวีลีคของโลกอย่าง MIT อีกด้วย ที่สำคัญ Sergey นั้นอยู่ในกลุ่มทำงานวิจัย Cryptography Research Group ให้กับทางบริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง IBM

ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีผลงานมากมายที่เกี่ยวกับคริปโตโปรโตคอลโดยเฉพาะ ส่วน Georgios Vlachos นั้นก็จบทั้งปริญญาตรีและโทจากไอวีลีคอย่าง MIT เช่นเดียวกัน ที่สำคัญการันตีความเก่งกาจด้วยเหรียญทองจาก International Math Olympiad ซึ่งเป็นการแข่งขันคณิตศาสตร์ระดับโลกอีกด้วย แค่เห็นไฮไลต์ของ Founder ใน Axelar หลายคนก็น่าจะทึ่งกับความสามารถของพวกเขาอย่างแน่นอน แม้ความเชี่ยวชาญในด้านเทคนิคของทีมงานจะดูเป็นเทคนิคเฉพาะ แต่ไม่ต้องกังวลเลยว่าการทำความเข้าใจกับโปรเจกต์ Axelar สำหรับคนทั่วไปจะเป็นเรื่องยาก

เพราะเรานำมาย่อยและอธิบายอย่างง่ายๆ ได้แบบม้วนเดียวจบ หากพูดถึง Axelar อยากให้คุณลองจินตนาการถึง ‘วุ้นแปลภาษา’ ของโดราเอมอน ที่จะช่วยให้คุณเชื่อมต่อและเข้าใจภาษาต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว แม้ว่าจะพูดภาษานั้นไม่เป็นเลยก็ตาม ซึ่งโปรเจกต์ Axelar ก็มีอารมณ์คล้ายๆ แบบนั้น เพราะ Axelar จะเปรียบเสมือนตัวกลางในการเชื่อมต่อแพลตฟอร์มต่างๆ ที่อยู่ในบล็อกเชน โดย Axelar มีโปรโตคอลและ API ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนข้อจำกัดในการสื่อสารข้ามแพลตฟอร์มโดยเฉพาะ

เพราะอย่างที่เราคุ้นเคยกันดีว่าในโลกแห่งบล็อกเชนนั้นมีแพลตฟอร์มต่างๆ เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น Ethereum, Terra, Polkadot, Monero, Celo และอีกมากมาย แพลตฟอร์มต่างๆ เหล่านี้มักจะมีรูปแบบการออกแบบ การทำงาน รวมไปถึงระบบนิเวศ (ecosystem) ที่แตกต่างกัน ซึ่งคงจะดีไม่น้อยหากแพลตฟอร์มเหล่านี้สามารถเชื่อมต่อกันได้แบบไร้ตะเข็บ

ดังนั้น Axelar จึงทำหน้าที่เปรียบเสมือนสะพานหรือตัวเชื่อม ซึ่งใช้เป็นเน็ตเวิร์กตัวกลางที่จะทำให้การทำงานต่างแพลตฟอร์มสามารถสื่อสารกันได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการใช้ Axelar จึงช่วยให้การทำงานคล่องตัวมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญมั่นใจได้ว่าเน็ตเวิร์ก Axelar ที่พัฒนาขึ้นมานั้นจะช่วยมอบความปลอดภัยและความเสถียรในการใช้งานได้ อย่างล่าสุดจะเห็นได้ว่า Axelar และ Polygon ซึ่งเป็น Ethereum scaling network นั้นได้ร่วมมือกันที่จะทำให้ผู้ใช้งาน Polygon สามารถใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ของเครือข่ายบล็อกเชนภายนอกและเพิ่มสภาพคล่องระหว่างระบบนิเวศได้อย่างไร้ขีดจำกัด

เป้าหมายหลักและภาพรวมของ Axelar แบบสังเขป

จากการอธิบายข้างต้นจะเห็นได้ว่าโปรเจกต์ Axelar นั้นเน้นเรื่องการเชื่อมต่อและการทำงานที่ไหลลื่นของแพลตฟอร์มที่มีระบบนิเวศที่แตกต่างกัน ซึ่งในแง่ของนักพัฒนาหรือผู้สนใจในเทคโนโลยีบล็อกเชนนั้นถือว่ามีประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง และหากกล่าวโดยรวมแล้ว เป้าหมายของโปรเจกต์นี้ก็คือ การสร้าง Decentralized Stack เพื่อแก้ปัญหาการเชื่อมต่อบล็อกเชนที่ต่างกันเช่น การใช้ภาษาเขียนโปรแกรม กฎเกณฑ์ที่ใช้งาน นอกจากนี้ Axelar ยังสนับสนุนการใช้ Smart Contract Languages สำหรับการสร้างเครือข่ายกระจายอำนาจแบบรวมศูนย์และโปรโตคอลสแต็กเพื่อเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันอีกด้วย

โครงสร้างของ Axelar โปรโตคอลและ API หลักที่ใช้ขับเคลื่อนระบบ

หากคุณเป็นนักเทรดธรรมดาหรือไม่ได้เชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคไอทีมากมายนัก อาจจะสงสัยว่าทำไมโปรโตคอลและ API จึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาระบบและเพราะเหตุใดองค์ประกอบเหล่านี้จึงมีประโยชน์ต่อการใช้งานบนบล็อกเชน โดยโปรโตคอลนั้นเปรียบเสมือนข้อกำหนดทางมาตรฐานที่ช่วยกำหนดสิทธิ์ต่างๆ ในการเข้าถึงและทำให้ระบบต่างๆ สามารถพูดคุยกันได้เข้าใจแม้ว่าจะมีพื้นฐานโครงสร้างที่ต่างกันก็ตาม หากอธิบายง่ายๆ ก็คล้ายกับ ‘ภาษากลาง’ อย่างเช่น ภาษาอังกฤษที่ใช้สื่อสารในธุรกิจได้ทั่วโลกนั่นเอง ในส่วนของ API นั้นจะช่วยให้ระบบต่างๆ สามารถสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องรู้ว่ามีการใช้งานอย่างไร ซึ่งจะทำให้การทำงานรวดเร็วและง่ายยิ่งขึ้น 

  • Cross-Chain Gateway Protocol (CGP) ตัว CGP นั้นเป็นโปรโตคอล Border Gateway ซึ่งถือว่ามีความสำคัญและมีประโยชน์อย่างมาก เพราะจะช่วยให้ระบบต่างๆ ในบล็อกเชนเชื่อมต่อกันได้อย่างง่ายดาย โดยหมดห่วงในเรื่องของข้อจำกัดต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงเรื่องของการถ่ายโอนข้อมูลข้ามเครือข่าย ดังนั้นจึงเอื้อต่อการทำงานของเหล่านักพัฒนาเป็นอย่างมาก เพราะสามารถทำงานได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงภาษาเดิมที่ใช้อยู่ ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจะมีรูปแบบหรือเทคโนโลยีที่ต่างกันขนาดไหนในแต่ละแพลตฟอร์ม การทำงานก็สามารถเชื่อมต่อได้อย่างไม่สะดุด
  • Cross-chain Transfer Protocol (CTP) เป็นโปรโตคอลที่เปรียบเสมือนการย่อดาวเคราะห์ต่างๆ ให้อยู่ใกล้กันมากขึ้น โดย CTP นั้นถูกนำมาใช้ในระดับแอปพลิเคชัน ซึ่งจะนำมาใช้งานในส่วนของการโยกย้ายไฟล์ และ Hypertext Transfer Protocols ซึ่งมีประโยชน์สำหรับนักพัฒนาทั้งหลาย เพราะจะสามารถโอนถ่ายข้อมูลต่างๆ ได้ง่าย ที่สำคัญนักพัฒนาสามารถโฮสต์ dapps ของตนเองได้ทุกที่และสามารถสื่อสารกับแอปพลิเคชันในอื่นๆ ผ่าน CTP และ API ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อดีของ Axelar ต่อผู้ใช้งานระบบบล็อกเชน

แม้ว่าเราจะพอได้ไอเดียกันแล้วว่า Axelar นั้นมุ่งเน้นที่จะช่วยให้ผู้พัฒนาระบบสามารถทำงานได้สะดวกมากยิ่งขึ้นบนเครือข่ายบล็อกเชน แต่มุมมองสำหรับผู้ใช้งานขั้นพื้นฐาน เช่น การเทรดคริปโตหรือ NFT อย่างเราๆ ท่านๆ นั้นจะได้ประโยชน์อะไรจาก Axelar บ้าง 

  • ซื้อขายได้ง่ายยิ่งขึ้น สำหรับเหล่านักเทรดหรือนักลงทุนนั้น ความสะดวกสบายในการใช้จ่ายผ่าน wallet นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งการเข้ามาของ Axelar ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการใช้งานในส่วนนี้ได้ โดยนักเทรดจะสามารถใช้ wallet ในการจับจ่ายใช้สอยผ่านแพลตฟอร์มที่แตกต่างกันได้แบบไร้ข้อจำกัดและไร้พรมแดนนั่นเอง 
  • พูดคุยด้วยภาษาเดียวกัน ด้วยระบบโปรโตคอลของ Axelar นั้นจะช่วยให้การสื่อสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการโทรหรือการพูดคุยกันผ่าน HTTP/HTTPS เป็นไปได้อย่างสะดวกมากขึ้น โดยผู้ใช้งานอย่างเราสามารถสื่อสารและใช้งานกับผู้ให้บริการต่างๆ ผ่านเว็บเบราวเซอร์ที่แตกต่างกันได้อย่างไม่มีสะดุด 
  • ความสะดวกที่มาพร้อมกับความปลอดภัย การนำ Axelar มาใช้ในบล็อกเชนนั้นนอกจากจะอำนวยความสะดวกในการซื้อขายแลกเปลี่ยนและทำงานข้ามแพลตฟอร์มแล้ว Axelar ยังมีความปลอดภัยที่สูงมากอีกด้วย เนื่องจากตัว Axelar นั้นมีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ที่สำคัญ Axelar ได้ตั้ง safety threshold ไว้สูงถึง 90% ซึ่งจะทำให้มีการตรวจสอบอย่างรัดกุมในการทำธุรกรรมประเภทต่างๆ 
  • รองรับธุรกรรมหลากหลายรูปแบบ Axelar นั้นทำงานแบบ Maximum Decentralization จึงสามารถรองรับการทำงานทางด้านธุรกรรมต่างๆ ที่อยู่บนเครือข่ายบล็อกเชนได้หลากหลายรูปแบบอย่างลื่นไหล อาทิเช่น รองรับการทำงานสำหรับจำนวนทรานเซ็กชั่นที่มากและหลากหลาย การลงนามหลายลายเซ็นบนบล็อกเชนที่มีการคิดค่าธรรมที่มีความซับซ้อน